เมนู

สัตตกนิบาต


1. อุตตราเถรีคาถา


[459] พระปฏาจาราเถรี ให้โอวาทว่า
มาณพทั้งหลายพากันถือสากตำข้าว ได้ทรัพย์มา
เลี้ยงบุตรภรรยาท่านทั้งหลายจงพากเพียรในคำสั่งสอน
ของพระพุทธเจ้า ที่ทำแล้วไม่เดือดร้อนในภายหลัง
ท่านทั้งหลายจงรีบล้างเท้าแล้วนั่ง ณ ที่ควรข้างหนึ่ง
จงเข้าไปตั้งจิตให้มีอารมณ์เดียว ตั้งมั่นด้วยดีแล้ว
พิจารณาสังขารทั้งหลาย โดยความเป็นของแปรปรวน
และโดยความเป็นของไม่ใช่ตน.
ข้าพเจ้าฟังคำพร่ำสอนของพระปฏาจาราเถรีนั้น
แล้ว ล้างเท้าเข้าไปนั่ง ณ ที่ควรข้างหนึ่ง ในปฐมยาม
แห่งราตรี ข้าพเจ้าก็ระลึกชาติก่อนได้ ในมัชฌิมยาน
แห่งราตรี ก็ชำระทิพยจักษุได้หมดจด ในปัจฉิมยาม
แห่งราตรี ก็ทำลายกองแห่งความมืด [อวิชชา] ได้
ข้าพเจ้าบรรลุวิชชา 3 จึงลุกขึ้นจากอาสนะในภายหลัง
ข้าพเจ้าทำตามคำพร่ำสอนของแม่ท่านแล้ว ข้าพเจ้ามี
วิชชา 3 ไม่มีอาสวะห้อมล้อมแม่ท่านอยู่ ดุจทวยเทพ
ชั้นดาวดึงส์ พากันห้อมล้อมท่าวสักกะผู้ชนะสงคราม
ฉะนั้น.

จบ อุตตราเถรีคาถา

อรรถกถสัตตกนิบาต


1. อรรถกถาอุตตราเถรีคาถา


ในสัตตกนิบาต คาถาว่า มุสลานิ คเหตฺวาน ดังนี้เป็นต้น
เป็นคาถาของพระอุตตราเถรี มีวินิจฉัยดังต่อไปนี้.
พระเถรีแม้รูปนี้ ได้บำเพ็ญบารมีมาในพระพุทธเจ้าพระองค์ก่อน ๆ
สะสมกุศล ซึ่งเป็นอุปนิสัยแห่งพระนิพพานมาในภพนั้น ๆ ได้บำเพ็ญกุศลมูล
สร้างสมธรรมเครื่องปรุงแต่งวิโมกข์มาโดยลำดับ มีธรรมเครื่องอบรมบ่มวิมุตติ
แก่กล้า ในพุทธุปบาทกาลนี้ บังเกิดในเรือนของครอบครัวแห่งหนึ่ง ได้นามว่า
อุตตรา รู้เดียงสาแล้วเข้าไปยังสำนักพระปฏาจาราเถรี. พระเถรี ได้กล่าว
ธรรมแก่นาง นางฟังธรรมเกิดสังเวชในสังสารวัฏ เป็นผู้เลื่อมใสยิ่งในศาสนา
ก็บวช ครั้นบวชแล้ว ทำกิจเบื้องต้นเสร็จ เริ่มวิปัสสนาในสำนักของพระ-
ปฏาจาราเถรี ประกอบภาวนาอยู่เนือง ๆ คร่ำเคร่งวิปัสสนาอยู่ไม่นานนัก
ก็บรรลุพระอรหัตพร้อมด้วยปฏิสัมภิทา 4 เพราะอินทรีย์แก่กล้า เหตุที่สมบูรณ์
ด้วยอุปนิสัย ครั้นบรรลุพระอรหัตแล้วพิจารณาการปฏิบัติของตน ได้กล่าวคาถา
เหล่านี้เป็นอุทานว่า
พระปฏาจาราเถรี ให้โอวาทว่า
มาณพทั้งหลายพากันถือสากตำข้าวอยู่ ได้ทรัพย์
มาเลี้ยงดูบุตรภรรยา ท่านทั้งหลายก็จงพากเพียรในคำ
สั่งสอนของพระพุทธเจ้า ที่ทำแล้วไม่ต้องเดือดร้อนใน
ภายหลัง ท่านทั้งหลายจงรีบล้างเท้าแล้วนั่ง ณ ที่ควร
ข้างหนึ่ง จงเข้าไปตั้งจิตไว้ให้มีอารมณ์เดียว ตั้งมั่น